บริบทโลก: เมื่อ "สัญญาณนำทาง" กลายเป็นเรื่องของความมั่นคง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกได้ตระหนักชัดว่าระบบดาวเทียมนำทาง (GNSS) ไม่ได้มีไว้เพียงแค่ใช้เปิดแผนที่หรือขับรถอย่างปลอดภัย แต่เป็น “โครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคง” ที่แต่ละประเทศไม่อาจมองข้าม
เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างจริงจัง เกิดขึ้นในปี 1999 เมื่ออินเดียต้องการข้อมูลตำแหน่งดาวเทียม GPS ในช่วงสงครามคาร์กิลกับปากีสถาน แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสหรัฐฯ จึงทำให้อินเดียต้องเร่งพัฒนาระบบของตนเอง จนกลายมาเป็น NavIC (Navigation with Indian Constellation) ที่ใช้งานในปัจจุบัน
นับแต่นั้น หลายประเทศก็เริ่มลงทุนในระบบของตนเอง เช่น จีน (BeiDou), ญี่ปุ่น (QZSS), เกาหลีใต้ (KPS) และสหภาพยุโรป (Galileo) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการพึ่งพาระบบของผู้อื่น

บริบทของไทย: เราอยู่ในจุดที่ควรเลือก
ประเทศไทยในปัจจุบันพึ่งพาสัญญาณจาก GPS, BeiDou, Galileo และ GLONASS ทั้งหมดเป็นของต่างประเทศ ซึ่งเปิดใช้งานให้ “ฟรี” แต่มีข้อจำกัดทางยุทธศาสตร์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือหากเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเข้าถึงสัญญาณเหล่านี้อาจถูกปิดกั้น หรือบิดเบือนโดยประเทศเจ้าของ
แม้ในภาวะปกติ ระบบจากต่างประเทศจะเพียงพอสำหรับประชาชนทั่วไป แต่ในเชิงความมั่นคงของชาติ การควบคุมไม่ได้จึงเป็น “ความเสี่ยง”
จึงเป็นแรงบันดาลใจในของผู้เขียนที่ริเริ่มแนวคิดของระบบดาวเทียม TNSS – Thai Navigation Satellite System ระบบดาวเทียมนำทางภูมิภาคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
TNSS คืออะไร และมีไว้เพื่ออะไร?
TNSS (Thai Navigation Satellite System) คือระบบดาวเทียมที่จะให้บริการด้าน การระบุตำแหน่ง การนำทาง และเวลา (PNT – Positioning, Navigation, Timing) ครอบคลุมพื้นที่ประเทศไทย และอาจขยายครอบคลุมภูมิภาคอาเซียนในระยะถัดไป
เป้าหมายหลักของ TNSS ไม่ใช่แข่งขันกับ GPS แต่เป็นการ “เสริมความมั่นคง” และ “ลดความเสี่ยง” หากระบบจากต่างประเทศถูกปิดกั้น พร้อมกับสร้างเทคโนโลยีของชาติและประโยชน์ทางเศรษฐกิจในภาคต่างๆ
TNSS จะช่วยประเทศได้อย่างไร?
1. มั่นคงทางทหาร
- สร้างช่องสัญญาณเข้ารหัสสำหรับกองทัพ ใช้ควบคุมอาวุธนำวิถี นำทางหน่วยรบ หรือปฏิบัติการที่ต้องการความแม่นยำสูง
- ลดความเสี่ยงจากการถูกตัดสัญญาณจาก GNSS ต่างประเทศ
2. ความต่อเนื่องของโครงสร้างพื้นฐาน
- สนับสนุนเรื่องเวลา (Time – Timestamp) ที่แม่นยำให้กับระบบโทรคมนาคม ไฟฟ้า และการเงิน
- ป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจหากระบบ GPS ล่ม เช่นเดียวกับที่สหราชอาณาจักรเคยประเมินว่า GPS หยุด 1 วัน อาจทำเศรษฐกิจเสียหายถึง 1 พันล้านปอนด์
3. ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
- สนับสนุนการเกษตรแม่นยำผ่านระบบ IOT การขนส่ง ระบบรถยนต์ไร้คนขับ และบริการโลจิสติกส์
- เปิดโอกาสให้เอกชนไทยร่วมผลิต รับสัญญาณ และพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ
TNSS จะมีลักษณะอย่างไร?
- ระบบจะใช้ดาวเทียมประมาณ 5–9 ดวง ในวงโคจรที่เหมาะสม เช่น GEO (Geostationary Orbit) และ IGSO (Inclined Geosynchronous Orbit)
- สถานีควบคุมหลักจะตั้งอยู่ในประเทศไทย พร้อมสถานีตรวจวัดความแม่นยำของสัญญาณกระจายทั่วประเทศ
- มี 2 ระดับบริการ:
- บริการทั่วไป (Standard Service): สำหรับประชาชนทั่วไป ใช้งานนำทางและบริการในชีวิตประจำวัน
- บริการความแม่นยำสูง (Restricted/Military Service): สำหรับภาครัฐและทหาร พร้อมการเข้ารหัสและระบบป้องกันการแทรกแซง
การแบ่งช่วงการพัฒนาที่เป็นขั้นตอน ไม่เร่ง แต่มั่นคง
- ระยะที่ 1 : ให้บริการมาตรฐาน เปิดสัญญาณให้ประชาชนใช้งานร่วมกับระบบ GNSS ที่มีอยู่ของนานาชาติ
- ระยะที่ 2 : ขยายจำนวนดาวเทียม เพิ่มความสามารถในการให้บริการแบบ “พึ่งพาตนเอง” พร้อมเปิดใช้ช่องทางเข้ารหัสสำหรับภารกิจพิเศษ
ข้อเสนอแนะเบื้องต้น
- เริ่มต้นที่ประเทศไทย แล้วค่อยขยายครอบคลุมอาเซียน หากมีความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นคงด้านระบบ GNSS ภายในภูมิภาค
- ออกแบบให้ใช้ได้ร่วมกับ GPS/Beidou โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์
- ใช้แนวทาง “shared payload” – ส่งอุปกรณ์นำทางไปพร้อมกับดาวเทียมสื่อสารเพื่อประหยัดงบ
- สร้างการรับรู้ผ่านภาคการศึกษา เอกชน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
สรุป
การมีระบบดาวเทียมนำทางของตัวเอง ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่เป็น การลงทุนเพื่อความมั่นคงในระยะยาว ระบบดาวเทียม TNSS คือโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งอนาคต ที่จะเสริมความมั่นคงแห่งชาติ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และพาประเทศก้าวสู่ยุคที่สามารถกำหนดเทคโนโลยีของเราเองได้ เพราะอธิปไตยในยุคดิจิทัล...ไม่ได้อยู่แค่บนแผ่นดิน แต่อยู่บนอวกาศด้วยเช่นกัน
บทความโดย : น.ต.ณัฐดนัย วิศิษฏ์โยธิน นายทหารปฏิบัติการ แผนกปฏิบัติการ กองลาดตระเวนและเฝ้าตรวจทางอวกาศ ศูนย์ปฏิบัติการทางอวกาศกองทัพอากาศ