แนวคิดระบบดาวเทียมเฝ้าระวังทางอวกาศ (Space Based SDA System) และโอกาสของประเทศไทย

          Space Domain Awareness (SDA) หรือ Space Situational Awareness (SSA) เป็นความสามารถในการ "เห็นภาพอวกาศ" แบบทันเวลาเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและสั่งการในภารกิจต่าง ๆ ตั้งแต่การเตือนภัยขีปนาวุธไปจนถึงการเฝ้าระวังพฤติกรรมดาวเทียมของประเทศคู่ขัดแย้ง ในยุคที่กิจกรรมอวกาศมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพของระบบ SDA นี้จึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของความมั่นคงระดับชาติ

ในอดีต ระบบ SSA/SDA ส่วนใหญ่อาศัยเซนเซอร์บนพื้นผิวโลก เช่น กล้องโทรทรรศน์ออปติคัล เรดาร์ตรวจการอวกาศ แต่ระบบเหล่านี้มีข้อจำกัดสำคัญหลายประการ ได้แก่ ผลกระทบจากสภาพอากาศ เมฆ และมลพิษทางแสง การจำกัดมุมมองทางภูมิศาสตร์ที่ทำให้เกิดช่องว่างในการเฝ้าระวัง รวมถึงความล่าช้าในการได้รับข้อมูลเนื่องจากการหมุนของโลก

ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้ระบบ SSA/SDA ที่อยู่ในอวกาศกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถให้การเฝ้าระวังแบบต่อเนื่อง 24/7 ไม่ขึ้นกับสภาพอากาศ มีมุมมองครอบคลุมทั่วโลก และสามารถตรวจจับเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว บทความนี้จึงจะเน้นไปที่ระบบดาวเทียม SSA/SDA ที่อยู่ในห้วงอวกาศโดยเฉพาะ

          เทคโนโลยีหลักของระบบดาวเทียม SDA ในอวกาศ

ระบบเตือนภัยและติดตามขีปนาวุธ

สหรัฐอเมริกาใช้ระบบ SBIRS (Space-Based Infrared System) และ Next-Generation Overhead Persistent Infrared (Next-Gen OPIR) เพื่อการตรวจจับการปล่อยขีปนาวุธและการติดตามภัยคุกคามความร้อนสูงอย่างครอบคลุมทั่วโลก ขณะที่ระบบภาคพื้นรุ่นใหม่อย่าง FORGE จะทำหน้าที่รวมศูนย์ข้อมูล OPIR และการติดตามวัตถุในวงโคจร LEO/MEO เข้าด้วยกันเพื่อบูรณาการระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัจจุบัน สำนักงานพัฒนาระบบอวกาศ (Space Development Agency: SDA) แห่งกองทัพอวกาศสหรัฐอเมริกา กำลังสร้างโครงข่ายดาวเทียมในระดับชั้น LEO ที่เชื่อมโยงด้วย Optical Inter-Satellite Links (OISL) เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแจ้งเตือน ติดตาม และชี้เป้าในระดับยุทธวิธี โดยจะเสริมข้อมูลด้วยระบบดาวเทียมในระดับชั้น MEO เพื่อเพิ่มมุมมองและช่วงเวลาให้มีความครอบคลุมเป้าหมายที่นานขึ้น

ระบบตรวจสอบและจำแนกวัตถุอวกาศ

ระบบดาวเทียม SBSS (Space-Based Space Surveillance) ในวงโคจร LEO และ GSSAP (Geosynchronous Space Situational Awareness Program) ใกล้วงโคจรระดับ GSO ทำหน้าที่ระบุ จำแนก พิสูจน์ข้อเท็จจริง และติดตามวัตถุอวกาศ ตลอดจนพฤติกรรม co-orbital ของดาวเทียมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการที่สำคัญสำหรับ SSA

นอกจากนี้ ยังมีระบบ HBTSS (Hypersonic and Ballistic Tracking Space Sensor) ซึ่งเป็นเซนเซอร์ติดตามแบบ “เกิด-ถึง-ดับ” ของขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค ที่สามารถส่งข้อมูลให้ระบบยิงสกัดกั้นได้ทันในอนาคต และเป็นตัวเชื่อมสำคัญกับ Tracking Layer ของระบบ SDA

แนวทางการพัฒนาด้าน Space Based SDA System ของไทย

ความเป็นไปได้ของประเทศไทยในการพัฒนาประสิทธิภาพด้าน SDA ในห้วงอวกาศให้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะได้แก่

ระยะที่ 1: การวางรากฐาน (0-3 ปี)

เริ่มต้นด้วยการสร้าง CubeSat ขนาด 6U-12U สำหรับทดสอบระบบ Space Based SDA System โดยติดตั้งกล้องที่สามารถรับแสงที่มองเห็นได้ (Visible Light) และ Near Infared พร้อม star-tracker เพื่อเสริมฐานข้อมูลวัตถุอวกาศและแยกลักษณะวัตถุด้วย Light-curve รวมถึงการตั้ง "SSA Data Fusion Cell" เพื่อรวมข้อมูลจากดาวเทียมชาติพันธมิตร และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อฝึกให้มีขีดความสามารถด้าน anomaly detection บนสถานการณ์จริงในห้วงอวกาศ

ระยะที่ 2: การเจริญเติบโต (3-6 ปี)

สร้างโครงข่ายดาวเทียม Microsatellite จำนวน 8-20 ดวงในวงโคจร LEO ที่ทำหน้าที่เป็น taskable staring sensor พร้อมพัฒนาระบบภาคพื้นให้ เพื่อรับข้อมูลจากหลายแหล่งและหลายระดับในอนาคต ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบของชาติพันธมิตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระยะที่ 3: ความสมบูรณ์ (6-10 ปี)

พัฒนา "ASEAN Regional SSA Constellation" ที่แบ่งความรับผิดชอบในการเฝ้าระวังห้วงอวกาศร่วมกับชาติพันธมิตรในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทดลองระบบ Hybrid Micro-OPIR Satellite เพื่อการติดตาม Early-track พร้อมโครงการ Rendezvous and Proximity Operations (RPO) และ Active Debris Removal (ADR) Demonstration ร่วมกันในระดับภูมิภาค


           สรุป

แนวทางการพัฒนา SDA ของไทย มีความเป็นไปได้สูงทั้งเชิงเทคนิคและเชิงงบประมาณ โดยเฉพาะการเริ่มต้นจากเทคโนโลยีที่ควบคุมได้เองก่อนขยายสู่ความร่วมมือระดับภูมิภาค แนวทางนี้ไม่เพียงตอบสนองความต้องการด้านความมั่นคงแห่งชาติ แต่ยังสร้างอำนาจต่อรองเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาวให้กับประเทศอีกด้วย

เรียบเรียงโดย

น.ต.ณัฐดนัย วิศิษฏ์โยธิน


Sign in to leave a comment
Payload: หัวใจของอวกาศยาน เทคโนโลยีอัจฉริยะสู่การชี้นำ โลกอนาคต