สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอวกาศของยุโรป ได้แก่ Airbus, Thales และ Leonardo ประกาศรวมกิจการด้านอวกาศเข้าด้วยกัน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2025 เพื่อสร้างบริษัทอวกาศยุโรปรายเดียว ที่จะเป็นมหาอำนาจใหม่แห่งอุตสาหกรรมอวกาศยุโรป โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์ และสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของยุโรปจากประเทศมหาอำนาจอื่น การรวมครั้งนี้จะรวบรวมหน่วยธุรกิจอวกาศทั้งหมดของแต่ละบริษัทไว้ในที่เดียว โดย Airbus จะนำหน่วย Space Systems และ Space Digital เข้ามา ส่วน Leonardo และ Thales จะนำหุ้นใน Thales Alenia Space และ Telespazio รวมถึงหน่วยผลิตและออกแบบทั้งหมดมารวมกัน
บริษัทใหม่จะมีพนักงานกว่า 25,000 คนทั่วทวีปยุโรป รายได้รวมต่อปีราว 6.5 พันล้านยูโร และมีคำสั่งซื้อในมือมากกว่าสามปีข้างหน้า โครงสร้างการถือหุ้นจะเป็นแบบร่วมควบคุม โดย Airbus ถือ 35% ขณะที่ Thales และ Leonardo ถือฝ่ายละ 32.5% ทำให้ระบบบริหารเป็นแบบสามเสาหลัก ภายใต้ความร่วมมือของฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ถือเป็นครั้งแรกที่ยุโรปพยายามรวมศูนย์อุตสาหกรรมอวกาศทั้งหมดไว้ในองค์กรเดียว ครอบคลุมตั้งแต่ดาวเทียมวงโคจรต่ำและวงโคจรค้างฟ้า ยานสำรวจอวกาศ ไปจนถึงส่วนประกอบของสถานีอวกาศ เช่น โมดูล Habitation and Logistics Outpost (HALO) และ International Habitation Module (I-HAB) ของโครงการ Lunar Gateway ที่ Thales Alenia Space เป็นผู้สร้าง
Airbus ถือเป็นกระดูกสันหลังของระบบอวกาศยุโรป ในระดับ Hardware เป็นเจ้าของเทคโนโลยี Satellite Bus ที่ใช้ในดาวเทียมของ ESA เกือบทั้งหมด รวมถึง THEOS-2 ของไทย ขณะที่ Thales เป็นสมองของระบบอวกาศยุโรป เชี่ยวชาญด้าน Payload ระบบควบคุม และเป็นผู้ออกแบบโมดูลสถานีอวกาศให้ NASA และ ESA ส่วน Leonardo เป็นสายตาและประสาทสัมผัสของยุโรป ดูแลระบบกล้อง เซนเซอร์ หุ่นยนต์อวกาศ และบริการข้อมูลจากดาวเทียม
การรวมกิจการครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอวกาศของยุโรป ทั้งในด้านพลเรือนและกลาโหม บริษัทใหม่จะเป็นพันธมิตรหลักของโครงการระดับชาติ เช่น โครงการดาวเทียมสื่อสารที่ปลอดภัย (Infrastructure for Resilience, Interconnectivity and Security by Satellite : IRIS) โครงการสังเกตการณ์โลกของสหภาพยุโรป (Copernicus Next Generation : CNG) อีกทั้งยังช่วยให้ยุโรปสามารถแข่งขันกับบริษัทสหรัฐฯ อย่าง Maxar, Planet หรือ Amazon Kuiper ได้โดยตรง
สำหรับประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลโดยตรง เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักของยุโรปในภูมิภาค ตั้งแต่ดาวเทียม THEOS-2 ของ Airbus ระบบวิเคราะห์ภาพจาก Thales ไปจนถึงเทคโนโลยี Downstream ที่ Leonardo มีส่วนเกี่ยวข้อง การรวมกิจการของทั้งสามบริษัทหมายความว่า ในอนาคตไทยอาจไม่ได้ติดต่อแยกกับ Airbus หรือ Thales อีกต่อไป แต่จะต้องพูดคุยกับบริษัทใหม่ที่เป็นตัวแทนของยุโรปทั้งทวีป ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบนิเวศด้านอวกาศที่ไทยมีส่วนร่วมอยู่ด้วยโดยตรง.
ที่มา : https://spacenews.com/airbus-leonardo-and-thales-agree-to-combine-space-businesses/