กองทัพอวกาศสหรัฐฯ ใช้ดาวเทียมตรวจจับไฟป่าเสริมศักยภาพการพยากรณ์อากาศทางทหาร
กองทัพอวกาศสหรัฐฯ กำลังมุ่งใช้เทคโนโลยีดาวเทียมที่เดิมออกแบบมาเพื่อตรวจจับไฟป่า มาปรับใช้เพื่อเสริมขีดความสามารถด้านการติดตามสภาพอากาศทางทหาร โดยได้มอบสัญญามูลค่า 44.6 ล้านดอลลาร์ ให้กับบริษัท Muon Space ผู้ผลิตดาวเทียมขนาดเล็กจากรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อดำเนินการสาธิตเทคโนโลยีตรวจวัดสิ่งแวดล้อมในวงโคจร สนับสนุนภารกิจด้านกลาโหม
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานบัญชาการระบบอวกาศ (Space Systems Command: SSC) ได้ประกาศมอบสัญญาภายใต้โครงการ Small Business Innovation Research (SBIR) ระยะที่ 3 ในรูปแบบ Other Transaction Authority (OTA) ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ที่เปิดทางให้รัฐบาลเข้าถึงเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ได้รวดเร็วขึ้น
หน่วย System Delta 810 ของ SSC ซึ่งรับผิดชอบด้านการตรวจจับและชี้เป้าจากอวกาศ ระบุว่า สัญญาฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ Muon Space ในการบริหารจัดการข้อมูลไฟป่าทั่วโลก พร้อมทั้งจัดหาภาพจำแนกเมฆและข้อมูลสภาพอากาศในพื้นที่ปฏิบัติการ เพื่อสนับสนุน กองกำลังร่วมหรือ Joint Warfighter
จากการติดตามไฟป่าสู่ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาทางทหาร
สัญญาฉบับใหม่นี้เป็นการต่อยอดจากสัญญา SBIR ระยะที่ 2 มูลค่า 2.9 ล้านดอลลาร์ ที่มอบให้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาเครื่องมืออินฟราเรดหลายช่วงคลื่น Quickbeam Muon Space ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย พัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจวัดสิ่งแวดล้อมร่วมกับองค์กรไม่แสวงกำไร Earth Fire Alliance โดยมีแผนจะปล่อยกลุ่มดาวเทียม FireSat สู่วงโคจรระดับต่ำ (Low Earth Orbit) เพื่อเฝ้าระวังไฟป่าและเหตุการณ์สิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ซึ่งเทคโนโลยีนี้กำลังถูกพิจารณานำมาใช้ตอบสนองความต้องการด้านการป้องกันประเทศของกองทัพอวกาศ ข้อมูลภาพเมฆที่มีความละเอียดสูงถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อภารกิจทางทหาร เนื่องจากใช้ประกอบการวางแผนถ่ายภาพดาวเทียม การใช้ระบบอาวุธนำวิถี และการลาดตระเวนเชิงยุทธศาสตร์ โดยในอดีต กองทัพพึ่งพาโครงการ Defense Meteorological Satellite Program (DMSP) ซึ่งปัจจุบันได้สิ้นสุดการปฏิบัติการแล้ว ทำให้กองทัพต้องหันมาพึ่งข้อมูลจากภาคเอกชนและหน่วยงานพลเรือนมากขึ้น
ต่อยอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์สู่ภารกิจทางทหาร
สำนักงานบัญชาการระบบอวกาศระบุว่า สัญญา Phase 3 นี้ “เป็นการต่อยอดจากภารกิจเชิงพาณิชย์ที่มีอยู่แล้วของบริษัท และอาศัยผลสำเร็จจากการปล่อยดาวเทียมต้นแบบ FireSat ก่อนหน้านี้”
นาย จอนนี ไดเยอร์ (Jonny Dyer) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Muon Space กล่าวว่า
“ด้วยการต่อยอดจากโครงสร้างพื้นฐานของโครงการ FireSat เชิงพาณิชย์ เราสามารถส่งมอบคุณค่าทางปฏิบัติการได้ทันที และพิสูจน์ศักยภาพในการขยายภารกิจเพื่อรองรับความต้องการด้านกลาโหมในอนาคต”
ดาวเทียมต้นแบบ FireSat ดวงแรกถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเมื่อเดือนมีนาคม 2025 ส่วนดาวเทียมปฏิบัติการชุดแรกอีกสามดวง มีกำหนดปล่อยในปี 2026 เพื่อทำภารกิจตรวจจับและติดตามไฟป่าทั่วโลก ภายใต้สัญญาฉบับใหม่นี้ Muon Space จะสร้างและปล่อยดาวเทียมต้นแบบจำนวนสามดวงสำหรับการสาธิตของ SSC โดยติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดรุ่นปรับปรุง Quickbeam-S ที่มีช่วงสเปกตรัมกว้างขึ้น พร้อมระบบประมวลผลข้อมูลบนวงโคจร เพื่อให้สามารถตรวจจับสภาวะบรรยากาศและอุณหภูมิได้ละเอียดกว่าเดิม
เทรซี มอร์แกน (Tracy Morgan) รองประธานฝ่ายพัฒนาโอกาสทางธุรกิจของ Muon Space กล่าวว่า Quickbeam-S เป็นระบบตรวจวัดแบบ “dual-use” ที่รองรับทั้งการใช้งานด้านอุตุนิยมวิทยาและสมุทรศาสตร์ทางทหาร รวมถึงการตรวจจับไฟป่าทั่วโลก โดยดาวเทียมทั้งสามดวงในโครงการนี้จะติดตั้งอุปกรณ์รุ่นดังกล่าวทั้งหมด
กองทัพอวกาศสหรัฐฯ ย้ำว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่มุ่ง “ใช้ประโยชน์จากเวลาและการลงทุนของภาคเอกชน” เพื่อเร่งการนำเทคโนโลยีไปใช้จริง ลดต้นทุน และสร้างความร่วมมือระหว่างภาคทหารกับภาคพลเรือน
แอนดี เบตซ์ (Andy Betz) หัวหน้าฝ่ายโครงการล้ำหน้าของหน่วย System Delta 810 สรุปว่า
“สัญญาฉบับนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อวกาศเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยอาศัยความรวดเร็ว นวัตกรรม และศักยภาพจากภาคเอกชนเพื่อเสริมขีดความสามารถด้านกลาโหมของประเทศ”
ที่มา https://spacenews.com/space-force-taps-muons-wildfire-monitoring-satellites-for-weather-imaging/
แปลและเรียบเรียง
ร.ต.ศิริพัฒน์ มีแทน