European Space Agency (ESA) กำลังพิจารณาโปรแกรมที่ทำให้ Vega light-lift rockets สามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น ตามที่ CEO ของบริษัท Avio ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างจรวด Vega ได้กล่าวไว้

          Giulio Ranzo CEO บริษัท Avio กล่าวเมื่อวันที่ 7 พ.ย.62 ระหว่างการประชุมร่วมกับหลายฝ่ายว่า จรวด Vega ยังคงเป็นไปตามแผนที่จะมาปฏิบัติการก่อนมีนาคม ถึงแม้ว่า payload อะไรที่จะปล่อยไปจรวด Vegaยังคงอยู่ขั้นตอนการพิจารณา

          Avio ได้เริ่มสร้าง Hardware สำหรับ return-to-flight mission รวมถึงการแก้ไขส่วนประกอบของการปล่อยจรวดขั้นที่ 2 เพื่อที่จะป้องกันการล้มเหลวของปล่อยจรวดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

          โปรแกรม P120, Vega C, และ Ariane6 จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีมุ่งเป้าไปที่การลดราคาที่จะต้องซื้อวัตถุดิบใหม่ โดยหันมาใช้อุปกรณ์ที่มีวางขายในท้องตลาด (COTS) ใช้กระบวนการอัตโนมัติที่ง่ายขึ้น และเปลี่ยนวิธีการทำงาน

          ในระยะยาว จะโฟกัสที่ Vega E จรวดรูปแบบใหม่ในอนาคตซึ่งจะใช้ liquid-oxygen ซึ่งมีประโยชน์หลายอย่าง และ ก๊าซมีเทน upper stage Vega E จะเป็นจรวดแบบ 3 ขั้น ในขณะที่ Vega ในปัจจุบันและ Vega C จะเป็นแบบ 4 ขั้น

Avio กำลังถกเถียงกับ Arianespace of Evry, France ว่าภารกิจที่มี smallsat ที่จะร่วมเดินทางไปกับจรวด Vega ควรที่จะกลับมาร่วมเดินทางอีกครั้งไหม สำหรับภารกิจนี้ยังคงมี smallsat 42 ดวงที่ยังคงประสานงานเพื่อปล่อยสู่อวกาศถึงแม้จะมีข่าวการ delay

          UAE’s Falcon Eye remote sensing satellite เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่ง first Falcon Eye satellite ถูกทำลายซึ่งได้ทำประกันไว้ $415 million ส่วน second Falcon Eye satellite ถูก delay ไปปล่อยปี 2020

          Ranzo ได้แสดงหลักฐานที่ Airbus ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างดาวเทียม Biomass ของ ESA เลือก Vega เป็นจรวดที่จะใช้ในการปล่อย

ที่มา: spacenews (https://spacenews.com/avio-anticipating-vega-c-upgrade-funding-at-esa-ministerial-vega-return-to-flight-in-march/)

แปลและเรียบเรียงโดย: ร.อ.ชาคริต จันทมิตร