เทรน AI ยอดนิยมและที่น่าจับตามองในปี พ.ศ.๒๕๖๔

รายละเอียด: หมวดหลัก: กองลาดตระเวนและเฝ้าตรวจทางอวกาศ; หมวด: ข่าวเทคโนโลยีอวกาศ; ฮิต: 928

Top AI Trends to Watch in 2021

ในปีนี้ AI จะแข็งแกร่งขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นี่คือแนวโน้มของ AI ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทศวรรษหน้าปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังส่งผลกระทบต่ออนาคตของแทบทุกอุตสาหกรรมและมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ปัญญาประดิษฐ์ได้รับการยอมรับให้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่นข้อมูลขนาดใหญ่หุ่นยนต์และอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ จะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีหลักสำหรับอนาคตอันใกล้

ทศวรรษหน้าจะเห็นการพัฒนาที่รวดเร็วเป็นประวัติการณ์และการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่และที่เกิดขึ้นใหม่มาใช้ การพัฒนานี้จะขับเคลื่อนไปสู่การผลักดันการเร่งความเร็วแบบดิจิทัลไปข้างหน้า นอกจากนี้ยังเตรียมความพร้อมเชิงรุกในอุตสาหกรรมเพื่อจัดการกับความไม่แน่นอนในอนาคตซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เห็นมาตลอด

การรอดตายจากการระบาดของโรคโควิด - ๑๙ ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๖๓ ทำให้เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ซับซ้อน การใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีจริยธรรมและผลกระทบที่เพิ่มขึ้นของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะผลักดันให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมเอาความเสี่ยงที่เป็นระบบเข้ากับการวางแผนระยะยาว

จากรายงานขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก - WIPO ที่เผยแพร่ครั้งแรกซึ่งติดตามการพัฒนาเทคโนโลยีผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมนวัตกรรมเราสามารถเห็นแนวโน้มในการจดสิทธิบัตรนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นผู้เล่นอันดับต้น ๆ ใน AI จากภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา และการกระจายทางภูมิศาสตร์ของการคุ้มครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับ AI และสิ่งพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์ รายงาน WIPO ชุดแรกเกี่ยวกับ AI และการวิเคราะห์สิทธิบัตรได้รับการเผยแพร่ในปี พ.ศ.๒๕๖๓ และยังคงมีความเกี่ยวข้องในเรื่องของแนวโน้ม AI

แนวโน้มของเทคโนโลยีสามารถมองเห็นได้ผ่านการวิเคราะห์สิทธิบัตรนี่คือเหตุผลที่การรวบรวมผู้เชี่ยวชาญที่รวมอยู่ในรายงาน WIPO เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง รายงานของ WIPO เจาะลึกถึงพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของนวัตกรรม AI การวิเคราะห์แนวโน้มในสิทธิบัตรและวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์นับตั้งแต่การเกิดปัญญาประดิษฐ์เมื่อหลายสิบปีก่อน

จะสำรวจรายละเอียดตามเทคนิคแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้และฟิลด์แอปพลิเคชัน รายงานนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นสิ่งที่ต้องอ่านสำหรับทุกคนที่พยายามทำความเข้าใจวิวัฒนาการและผลกระทบของ AI ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนและกำลังไปที่ใด

บริษัท ด้านเทคโนโลยีต่างค้นหาโอกาสในการจำลองความฉลาดของมนุษย์ด้วยเครื่องจักรและการเกิดขึ้นของการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร

จากข้อมูลของ WIPO เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI จำนวนมากสามารถใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ดังที่แสดงโดยสิทธิบัตรจำนวนมากใน AI ที่อ้างถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ปัจจุบัน Microsoft เป็นผู้นำในการแข่งขันด้านสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยมีสิทธิบัตรจำนวนมากที่สุด ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีมีสิทธิบัตรเกี่ยวกับ AI มากกว่า ๑๘,๓๐๐ รายการในพอร์ตโฟลิโอ Microsoft ตามด้วย IBM, Samsung, Qualcomm และ Google

สำหรับหลาย ๆ คนการพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้มของ AI ทำให้เกิดคำถามที่สำคัญที่สุดคำถามหนึ่งในเรื่องนี้ AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในอนาคตหรือไม่ ? และคำตอบสั้น ๆ คือใช่ AI สามารถและจะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในความเป็นจริงมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เรียกว่าวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี

วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีไม่สามารถหยุดยั้งได้เมื่อเกิดขึ้นกับวิวัฒนาการประเภทใด ๆ มิฉะนั้นความก้าวหน้าและวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็จะหยุดลงเช่นกัน ที่ผ่านมามนุษย์ได้เห็นหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่งานของมนุษย์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่นการผลิต ปัจจุบันหุ่นยนต์มี AI บางรูปแบบฝังอยู่ในตัวซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าทำงานได้ดีและรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเรากำลังอยู่ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ ตามธรรมชาติแล้วบางคนจะปฏิเสธที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่ขับเคลื่อนวิวัฒนาการ และ AI จะชอบหรือไม่เป็นหนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ และหลังจากนั้น

ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ ปัญญาประดิษฐ์ก้าวหน้าไปสู่ การมีอยู่ทั่วไปทุกมุมในชีวิตประจำวันของเรา

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ AI ที่มีจริยธรรม

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ AI ที่มีจริยธรรมอยู่ในอันดับต้น ๆ ของแนวโน้มเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ที่เราสามารถคาดหวังได้ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ จากข้อมูลของ Forrester ทศวรรษหน้าจะต้องใช้ CIO เพื่อตอบสนองต่อการเร่งความเร็วแบบดิจิทัลและจัดการความไม่แน่นอนในเชิงรุกทั้งหมดนี้ด้วยการใช้เทียมอย่างมีจริยธรรม ข่าวกรอง

ในอดีตองค์กรที่นำเอา Machine Learning และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อื่น ๆ มาใช้ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับผลกระทบทางจริยธรรมมากนัก อย่างไรก็ตามวันนี้สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไป ผู้บริโภคและพนักงานตามค่านิยมคาดหวังให้ บริษัท ต่าง ๆ นำ AI มาใช้อย่างมีความรับผิดชอบ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัท ต่าง ๆ จะตั้งใจเลือกที่จะทำธุรกิจกับคู่ค้าที่ยึดมั่นในจริยธรรมของข้อมูลและนำแนวทางปฏิบัติในการจัดการข้อมูลที่สะท้อนถึงคุณค่าของตนเองรวมทั้งคุณค่าของลูกค้า

ปัญหาด้านจริยธรรมเร่งด่วนบางประการในปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่
- การสูญเสียงานและความไม่เท่าเทียมกันในความมั่งคั่ง ผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียงานในอนาคต
- ใครเป็นผู้รับผิดชอบหาก AI ทำผิดพลาด?
- ระบบ AI ควรได้รับอนุญาตให้ฆ่าหรือไม่?
- ความเป็นเอกเทศและวิธีการควบคุม
- มนุษย์ควรปฏิบัติต่อ AI อย่างไร?
- AI อคติ

แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI

แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือที่เรียกว่า Conversational AI ช่วยเพิ่มการเข้าถึงการตอบสนองและการปรับเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าให้เป็นส่วนตัว จากข้อมูลของ Forrester AI สนทนาที่ใช้ AI พัฒนาไปสู่ระบบอัตโนมัติในการบริการลูกค้าที่ดีขึ้น

Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และ Machine Learning เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มนุษย์พูดและต้องการได้ดีขึ้นและให้การสื่อสารระดับใกล้เคียงกับมนุษย์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่งแชทบอทเลียนแบบการสนทนาของมนุษย์

ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ: การสร้างโรดแมปอัตโนมัติใหม่

การระบาดของโรคโควิด - ๑๙ กำลังเปลี่ยนวาระการทำงานอัตโนมัติขององค์กรอย่างรวดเร็วไปสู่กระบวนการทำงานหลังสำนักงานและความยืดหยุ่นทางธุรกิจ อันที่จริงระบบอัตโนมัติอัจฉริยะจะแสดงถึงการผสมผสานของระบบอัตโนมัติในกระบวนการหุ่นยนต์และดิจิทัลด้วย AI ที่ใช้งานได้จริงและเครื่องมือที่ใช้รหัสต่ำ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้นในขณะที่ขยายการดำเนินงาน

จะมีความคืบหน้ามากขึ้นสำหรับข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับ AI

ตามการคาดการณ์ของ Forrester ปี พ.ศ.๒๕๖๔ จะแสดงข้อมูลเทียมที่ดีเลวและน่าเกลียดซึ่งมีอยู่สอง อย่างมีจริยธรรม ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ Blockchain และ AI จะเริ่มผนึกกำลังกันอย่างจริงจังมากขึ้นเพื่อสนับสนุนแหล่งข้อมูลความสมบูรณ์และการใช้งาน

AI และ Machine Learning (ML) จะแทรกซึมกรณีการใช้งานและประสบการณ์ใหม่ ๆ

ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ บริษัท ที่กล้าหาญที่สุดจะผลักดัน AI ไปสู่พรมแดนใหม่ ซึ่งจะรวมถึงการประชุมโฮโลแกรมสำหรับการทำงานระยะไกลและการผลิตตามความต้องการส่วนบุคคล พวกเขาจะเล่นเกมการวางแผนเชิงกลยุทธ์สร้างสถานการณ์จำลองในห้องประชุมและก้าวไปสู่ประสบการณ์ที่ชาญฉลาด

Workplace AI จะช่วยเพิ่มระบบอัตโนมัติและความต้องการเพิ่มเติม

Forrester คาดการณ์ว่า ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ กว่าหนึ่งในสามของ บริษัท ที่อยู่ในโหมดปรับตัวและเติบโตจะมองหา AI เพื่อช่วยในการหยุดชะงักในสถานที่ทำงานสำหรับทั้งพนักงานตามสถานที่ทางกายภาพหรือสัมผัสกับมนุษย์และพนักงานที่มีความรู้ที่ทำงานจากที่บ้าน

ซึ่งรวมถึงการใช้ AI สำหรับการแยกเอกสารอัจฉริยะการเพิ่มตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าการติดตามสถานะการกลับไปทำงานหรือหุ่นยนต์กึ่งอิสระสำหรับการแยกทางสังคม

องค์กรต่าง ๆ ต้องหาทางประยุกต์ใช้ AI อย่างปลอดภัยกล้าหาญและมีจริยธรรมเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ที่มาของภาพและข่าว https://www.iteschina.com/en/news/details?id=1621
ผู้แปลและเรียบเรียง เรืออากาศเอกยุทธนา สุพรรณกลาง