เป้าหมายของบริษัทคาเพล่าคือมีดาวเทียมภาพถ่ายเรดาร์ 36 ดวงขึ้นสู่วงโคจรภายในปี 2023 |
ส่วนสามดวงต่อมาจะเป็นดาวเทียมที่มีลักษณะเหมือนกันจะถูกยิงขึ้นในปลายปี 2020 โดยมีเป้าหมายที่จะยิงดาวเทียมจำนวน 36 ดวงภายในปี 2023 Banazadeh CEO ของบริษัทกล่าวว่าจากการสำรวจทางการตรลาดและการทดสอบ บริษัทตัดสินใจว่าบริษัทต้องการยานอวกาศที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับความละเอียดตามแนวพิสัยของเรดาร์ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ได้ภาพขัดเจนมากขึ้นซึ่งมีความสำคัญต่อลูกค้าภาครัฐและหน่วยงานทางหาร นอกเหนือจากลูกค้าทั่วไปแล้ว โดยบริษัทได้รับสัญญาจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ และสำนักงานงานสอดแนมแห่งชาติสหรัฐฯ |
ดาวเทียมใหม่นี้มีขนาดใหญ่กว่าแบบเดิมที่มีขนาด 40 กก. ซึ่งยังถือว่ามีขนาดเล็ก ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้สร้างสาธารณูปโภคภาคพื้นดินและพัฒนากระบวนการจากเมื่อลูกค้าใส่คำขอภาพถ่ายในอเมซอน เว๊บ เซอร์วิส และคลาวด์ เซอร์วิส โดยระบบดังกล่าวเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด โดยประโยชน์ของเรดาห์นี้คือสามารถดูผ่านคลาวด์ได้ เราสามารถตรวจจับวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่าครึ่งเมตร และระบุวัตถุที่มีขนาดมากกว่า 1.5 เมตรได้ในทุกมิติ อาทิ ภาพถ่ายพื้นที่สงครามจะแสดงยานพาหนะและบอกได้ว่าเป็นยานพาหนะทางทหารหรือไม่ ข้อได้เปรียบอีกอย่างขอคาเพล่าคือใช้พลังน้อยลงทำให้ได้ภาพ 10 นาทีต่อหนึ่งรอบวงโคจรซึ่งดาวเทียมดวงเล็กปกติจะถ่ายได้แค่ 2 นาทีต่อหนึ่งรอบวงโคจร บริษัทให้คำสัญญาว่าเมื่อมีการใช้งานทางการพานิชย์ บริษัทจะสามารถส่งข้อมูล SARให้ได้ภายใน 30 นาทีเมื่อได้รับคำขอซึ่งเร็วกว่าปกติที่อยู่ประมาณ 8 ถึง 12 ชั่วโมง โดยบริษัทได้ทำข้อตกลงกับ IMMASAT เพื่อย่นการสื่อสารดังกล่าวโดยใช้ข่องทางการสื่อสารในดาวเทียมทุกดวง โดยแหล่งทุนในการยิงดาวเทียม 7 ดวงนี้มาจากบริษัท DCVC และ Spark Capital
|
แปลและเรียบเรียงโดย : น.อ.เพชรเดช เพชรช่วย |
บริษัทคาเพล่า เสปซจะยิงดาวเทียมเรดาร์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานด้านพานิชย์ 7 ดวง
- รายละเอียด
- หมวดหลัก: กองลาดตระเวนและเฝ้าตรวจทางอวกาศ
- หมวด: ข่าวเทคโนโลยีอวกาศ